บริษัท พรีมา อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการแบบทันสมัย มีสำนักงานใหญ่ที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2558 โดยมีลูกค้าจากภาคธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการธนาคาร ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ รวมทั้งธุรกิจด้านเทคโนโลยี ธุรกิจการผลิต และการเกษตร ที่ให้เราช่วยดูแล ให้คำปรึกษา และแนะนำ ทั้งโครงการในประเทศ และต่างประเทศ
ลูกค้าของเรามีขนาดธุรกิจที่แตกต่างกันตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าตั้งแต่นักลงทุนรายบุคคล, SMEs, กองทุน หุ้นเอกชน, ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและยูนิคอร์น ไปจนถึงบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ และจากหลากหลายภูมิภาคทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย รวมทั้งออสเตรเลีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
เราแนะนำลูกค้าทั้งในเอเชียและยุโรปในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เช่น บริษัทที่มีศักยภาพและการเข้าซื้อกิจการ การควบรวมกิจการ หรือการขายกิจการ ลูกค้าของเราคือผู้ประกอบการ ธุรกิจครอบครัว บริษัทเทคโนโลยี รวมถึงองค์กรที่มองหาการดำเนินการ M&A หรือหุ้นส่วนของตนอย่างดีที่สุด
ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานของเรากับผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และผู้ร่วมงานในอดีตที่ผ่านมา เรามั่นใจว่าเราสามารถช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้าในการจัดตั้งบริษัทไทย และสำนักงานตัวแทนในรูปแบบต่างๆ เราเชื่อว่าการเริ่มต้นแนวคิดหรือการร่วมทุนใหม่ที่ดีที่สุดคือ กระบวนการวิเคราะห์ตลาด การเงิน และการวางแผนเงินทุน และเมื่อทิศทางเชิงกลยุทธ์ชัดเจน เราจะสามารถเข้าถึงผู้ถือหุ้นที่มีศักยภาพ และ/หรือพันธมิตรได้อย่างมั่นใจ
เราเพิ่มแรงดึงดูดและความสำเร็จในโครงการการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าองค์กร โดยมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ทางธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานและวัฒนธรรม การดำเนินโครงการ และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
> รีวิวด้านการตลาด และกรณีศึกษาของธุรกิจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
> ดำเนินการทั้งระบบของ Mergers and Acquisitions (M&A) จนกระทั่งปิดดีล
> จัดตั้งองค์กร ทั้งการได้มาของกิจการ หรือการขายกิจการออกไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
> ติดต่อกับหน่วยงานภายใน และหน่วยงานที่กำกับดูแล
> จัดการดูแลนักลงทุนทั้งระดับ angel, series A/B และผู้ถือหุ้นรายย่อย
> เข้าสู่ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (การกระจาย)
> สรรหาบุคลากรที่สำคัญ และดูแลโครงการใหญ่ๆในการจัดการทรัพยากรบุคคล (เช่น การเลิกจ้างเป็นกลุ่ม)
> ดูแลด้านการจัดการขนาด และการปรับปรุงการดำเนินงาน รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการและประสิทธิภาพ
> คัดสรร และนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้
> ค้นหาพอร์ตโฟลิโอ เพื่อสร้างการเติบโตจากภายนอกกิจการ หรือที่เรียกว่า Inorganic Growth หรือแยกพอร์ตโฟลิโอ ที่ไม่ต้องการออก
